เทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อสังคมรวมไปถึงอาชีพเนื่องจากเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์สามารถทดแทนการทำงานของมนุษย์ได้งานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เทคโนโลยีสามารถเข้ามาทดแทนจะเป็นงานประจำที่ทำซ้ำ ๆ หรืองานที่ไม่ต้องใช้การตัดสินใจที่ซับซ้อน เช่น งานเอกสาร งานขับรถ
เนื่องจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์งานที่ใช้ทักษะและความรู้เฉพาะทางขั้นสูงก็อาจจะเสี่ยงต่อการถูกทดแทนได้เช่นกัน ในปีพุทธศักราช 2560 แอนดรูว์ แมคอาฟี (Andrew McAcfee) และ เอริก บรินโจล์ฟสัน (Erik Brynjolfsson) ระบุว่าปัจจัยที่ใช้พิจารณาลักษณะงานที่เสี่ยงจะถูกทดแทนคือ งานที่มีลักษณะดังนี้
- น่าเบื่อซ้ำซาก งานกลุ่มนี้จะเป็นงานที่ระบบอัตโนมัติสามารถทดแทนได้ง่าย
- สกปรกยากลำบาก งานกลุ่มนี้มักเป็นงานที่มนุษย์ไม่ชอบและพยายามหลีกเลี่ยง
- ทำเงินได้ดีการพัฒนาระบบอัตโนมัติมาทดแทนต้องใช้เงินทุนจำนวนมากดังนั้นงานที่สร้างรายได้ไม่มากจึงไม่เป็นเป้าหมายของการพัฒนาระบบอัตโนมัติมาทดแทน
- อันตราย งั้นกลุ่มที่มีอันตรายมนุษย์ไม่สามารถทำได้หรือถ้าทำจะเป็นอันตรายต่อชีวิต
จากการที่กล่าวมาข้างต้นนักเรียนลองพิจารณาความเสี่ยงของอาชีพต่าง ๆ ดังนี้
อาชีพครู
อาชีพครู ถ้าพิจารณาว่าอาชีพครูมีเพียงการบรรยายเนื้อหาเดิม ๆ งานลักษณะนี้สามารถถูกแทนด้วยระบบอัตโนมัติได้ไม่ยากนักแต่ถ้าคุณมีหน้าที่ช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันของนักเรียนสร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจเมื่อนักเรียนรู้สึกท้อรวมทั้งบทบาทอื่นๆนอกเหนือจากการถ่ายทอดความรู้ทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่ท้าทายนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างมากในกรณีนี้อาชีพครูก็จะถูกทดแทนได้ยาก
อาชีพแพทย์
อาชีพแพทย์มีการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถจดจำรูปแบบของฟิล์มและสามารถวินิจฉัยได้แม่นยำไม่แพ้แพทย์เฉพาะทาง ดังนั้น งานด้านนี้ของอาชีพแพทย์ก็อาจจะถูกทดแทนได้เพราะว่าเป็นงานที่เม็ดจะใช้ความสามารถสูงแต่ก็เป็นงานที่มีผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกัน
อาชีพนักแต่งเพลง
อาชีพนักแต่งเพลง ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง แต่ก็อาจถูกทดแทนได้ เพราะเป็นงานที่มีผลตอบแทนสูงในปัจจุบันมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถแต่งเพลงได้อย่างไพเราะจนคนแยกไม่ออกว่าเพลงนั้นแต่งโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือนักแต่งเพลง
การวิเคราะห์เกี่ยวกับอาชีพในอนาคต
การวิเคราะห์เกี่ยวกับอาชีพในอนาคตโดย Pricewaterhouse Coopers (PwC) ได้วิเคราะห์สถานการณ์ในประเทศอังกฤษและประเทศจีนพบว่าตำแหน่งงานที่จะถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติน่าจะมีประมาณ 20% ของตำแหน่งงานทั้งหมดแต่จะมีตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นในอัตราใกล้เคียงกันในประเทศอังกฤษสำหรับในประเทศจีนนั้นได้คาดการณ์ว่าจะมีตำแหน่งงานทดแทน 26% แต่จะมีตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นถึง 38% ทำให้โดยรวมแล้วมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น
ถ้าดูในรายละเอียดพบว่าในหลายกลุ่มอาชีพจะมีตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นจำนวนมากเช่นกลุ่มสุขภาพแต่มีบางกลุ่มที่ตำแหน่งงานหายไปกับตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้นใกล้เคียงกันเช่นกลุ่มค้าปลีกและค้าส่งและกลุ่มงานธุรกิจ
อาชีพที่จะมีการเสียตำแหน่งงาน
- -38% การขนส่ง
- -30% การผลิตในโรงงาน
- -28% ค้าปลีกค้าส่ง
- -24% การบริการและการบริหารจัดการ
- -20% การบริหารจัดการสาธารณะและการป้องกัน
- -5 เปอร์เซ็นต์การ
กลุ่มอาชีพที่จะมีตำแหน่งงานใหม่
- 34% การสาธารณสุขและการบริการสังคม
- 33% งานทางด้านวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคเฉพาะ
- 27% ระบบสารสนเทศและการสื่อสาร
- 26% การค้าปลีกค้าส่ง
- 23% การให้บริการและการบริหารจัดการ
- 22% การให้บริการที่พักและการบริการอาหาร
- 12% การศึกษา