Python คือ?
ภาษา Python กำเนิดขึ้นในปลายปี 1980 และการพัฒนาของมันเริ่มต้นในเดือนธันวาคม 1989 โดย Guido van Rossum ที่ Centrum Wiskunde & Informatica (CWI) ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เนื่องในผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างภาษา ABC ที่มีความสามารถสำหรับการจัดการข้อผิดพลาด (Exception handling) และการติดต่อผสานกับระบบปฏิบัติการ Amoeba ซึ่ง Van Rossum นั้นเป็นผู้เขียนหลักของภาษา Python และเขาทำหน้าเป็นกลางในการตัดสินใจสำหรับทิศทางการพัฒนาของภาษา Python
Python 2.0 ได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 16 ตุลาคม 2000 และมีคุณสมบัติใหม่ที่โดดเด่น ที่ประกอบไปด้วย cycle-detecting garbage collector และสนับสนุน Unicode กับการเผยแพร่ครั้งนี้ กระบวนการพัฒนานั้นได้เปลี่ยนไปโดยการร่วมกันพัฒนาด้วย Community มากขึ้น
Python 3.0 (ซึ่งได้มีการพัฒนามาก่อนหน้านี้และได้อ้างถึงโดยใช้ชื่อว่า Python 3000 หรือ py3k) มันเป็นการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และมันเข้ากันกับ Python ในเวอร์ชันก่อนหน้าไม่ได้ ซึ่งได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 3 ธันวาคม 2008 หลังจากที่ได้มีการทดสอบอยู่เป็นเวลานาน คุณสมบัติที่สำคัญของมันจำนวนมากได้ถูกย้อนกลับไปเพื่อให้เข้ากันได้กับ Python เวอร์ชัน 2.6.x และ 2.7.x
Python ทำอะไรได้บ้าง?
- Python สามารถใช้บนเซิร์ฟเวอร์เพื่อสร้างเว็บแอปพลิเคชัน
- Python สามารถใช้ควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์เพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์
- Python สามารถเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูล นอกจากนี้ยังสามารถอ่านและแก้ไขไฟล์
- Python สามารถใช้เพื่อจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และดำเนินการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน
- Python สามารถใช้สำหรับการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็วหรือสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่พร้อมสำหรับการผลิต
ทำไมต้อง Python
- Python ทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆ (Windows, Mac, Linux, Raspberry Pi เป็นต้น)
- Python มีไวยากรณ์ง่ายๆ คล้ายกับภาษาอังกฤษ
- Python มีไวยากรณ์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนโปรแกรมด้วยบรรทัดที่น้อยกว่าภาษาโปรแกรมอื่นๆ บางภาษา
- Python ทำงานบนระบบล่าม หมายความว่าโค้ดสามารถดำเนินการได้ทันทีที่เขียน ซึ่งหมายความว่าการสร้างต้นแบบสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
- Python สามารถปฏิบัติได้ในลักษณะที่เป็นขั้นตอน ทางเชิงวัตถุ หรือทางการทำงาน
Python Syntax เทียบกับภาษาโปรแกรมอื่นๆ
- Python ได้รับการออกแบบมาให้อ่านง่าย และมีความคล้ายคลึงกับภาษาอังกฤษโดยได้รับอิทธิพลมาจากคณิตศาสตร์
- Python ใช้การขึ้นบรรทัดใหม่เพื่อเติมคำสั่ง ตรงข้ามกับภาษาโปรแกรมอื่นๆ ที่มักใช้เครื่องหมายอัฒภาคหรือวงเล็บ
- Python อาศัยการเยื้องโดยใช้ช่องว่างเพื่อกำหนดขอบเขต เช่นขอบเขตของลูป ฟังก์ชัน และคลาส ภาษาโปรแกรมอื่นๆ มักใช้วงเล็บปีกกาเพื่อจุดประสงค์นี้
ตัวอย่าง Python
การหาจำนวณเฉพาะตั้งแต่ 1 ถึง จำนวนที่ input เข้
x=int(input("enter number")
for i in range(x):
j=1
num=0
while j<=i:
if i%j==0:
num+=1
j+=1
if num==2:
print(i)
Pythonลองเล่นกับ Python
# no pec