ต้นกำเนิดของภาษา HTML เกิดจาก เมื่อปี 1989 นักฟิสิกส์ชื่อ Tim Berners-Lee แห่งสถาบันวิจัย CERN เสนองานวิจัยเรื่อง prototyped ENQUIRE และ Hypertext system ใช้สำหรับนักวิจัยของสถาบันเพื่อแบ่งข้อมูลกัน และถูกพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน
HTML เป็นตัวย่อมาจาก Hypertext Markup Language เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการแสดงผลบนเว็บ บราวเซอร์ในอินเตอร์ โดยสามารถนำเสนอข้อมูลตัวอักษร รวมทั้งเชื่อมต่อเพื่อ แสดงภาพ , เสียง และไฟล์ในรูปแบบอื่น ๆ
โครงสร้างของไฟล์ภาษา HTML มี 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นข้อความที่จะพิมพ์
คือ ข้อมูล ข้อความ เนื้อหาต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอออกมาในเว็บเพจ
2. ส่วนที่เป็นคำสั่ง
ส่วนนี้จะใช้ในการจัดการรูปร่างและรูปแบบของตัวอักษรหรือเอกสาร จะเรียกว่า tag และส่วนที่เป็นคำสั่ง tag นี้ จะถูกเขียนอยู่ในเครื่องหมายทุกคำสั่ง ดังนี้
1. <html>…</html >
เป็นแท็กแรกที่ต้องมีในภาษา HTML ซึ่งบ่งบอกว่านี่คือภาษา HTML โดยจะอยู่ที่จุดเริ่มต้นของเอกสารและท้ายเอกสาร ในแต่ละแฟ้ม
2. <head>…</head>
เป็นการกำหนดรายละเอียดส่วนหัวของเอกสาร HTML คำสั่งที่อยู่ในส่วนนี้จะใช้บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บเพจ ซึ่งจะไม่แสดงผลที่หน้าเว็บเพจ
3. <title>…</title>
เป็นแท็กย่อยที่อยู่ภายใน <head> ที่ใช้ในการกำหนดชื่อเว็บเพจซึ่งข้อความภายในแท็กนี้จะเป็นชื่อหัวเรื่องเว็บเพจที่ต้องการซึ่งจะต้องมีความยาวไม่เกิน 64 ตัวอักษร ข้อความนี้จะไปปรากฏที่ title bar ของ โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ที่เราใช้งานอยู่
4. <body>…</body>
เป็นส่วนเนื้อหาที่ต้องการแสดงผลบนโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง วีดิโอและไฟล์ต่างๆ
ที่ต้องการนำเสนอ การเขียนแท็กในส่วนนี้ ไม่มีข้อกำหนด สามารถเขียนติดกัน หรือ 1 บรรทัดต่อ 1 แท็ก แต่มักจะยึดรูปแบบที่อ่านง่าย
<html>
<head>
<title>Page Title</title>
</head>
<body>
<h1>หัวเรื่อง</h1>
<p>ข้อความ</p>
</body>
</html>